Tuesday, March 30, 2010

การทำโลชั่นกลิ่นการะเวก

ผู้เขียนปรารถนาที่จะทำโลชั่นทาผิวที่ปลอดจากสารเคมีมาโดยตลอด กอร์ปกับที่บ้านมีต้นการะเวกที่ออกดอกสะพรั่ง ส่งกลิ่นหอมในช่วงเวลาสั้นๆแต่หอมจับใจเหลือเกิน บังเอิญช่วงนี้ว่างจึงได้สำรวจแหล่งเรียนรู้ต่างๆ จากผู้มีประสบการณ์ซึ่งผู้เขียนได้รวบรวมคลิปไว้ทางด้านขวามือ

ครั้งแรกที่ได้ทดลองทำ ผลงานก็น่าพอใจอยู่หรอก แต่บางขั้นตอนอาจต้องค่อยๆแก้ไขไป จนกว่าจะเป็นที่พอใจที่สุด โลชั่นกลิ่นการะเวกที่ทำได้ สามารถใช้ทาผิวที่แห้งหยาบกร้าน ทามือ หรือทาหน้าแทนรองพื้นก็ได้ ไม่ทำให้เกิดอาการแพ้ สัมผัสนุ่มมือ เนื้อละเอียด


ส่วนผสมจะมี 1. ประเภทน้ำ 2. ประเภทน้ำมัน
ประเภทน้ำคือ 1. ดอกการะเวกหมักกับน้ำสะอาดจนได้กลิ่นหอมครึ่งแก้ว
2. กลีเซอร์รีน 1 ช้อนโต๊ะ

กรองน้ำกลิ่นการะเวกใส่ภาชนะให้ได้ครึ่งแก้ว เทกลีเซอร์รีนลงไป คนให้เข้ากันตั้งพักไว้

ส่วนที่เป็นน้ำมัน
1. น้ำมันมะพร้าวที่ทำขึ้นเอง (ดูจากบทความครั้งก่อน) ประมาณครึ่งแก้ว เก็บดอกการะเวกใส่แช่ไว้ในโหลแก้วจนมีกลิ่นหอม
2. ขี้ผึ้ง (Beeswax)

กรองน้ำมันการะเวกใส่ในภาชนะให้ได้ประมาณครึ่งแก้ว

เทน้ำมันใส่หม้อใบเล็กที่วางบนหม้อน้ำเดือดใบใหญ่กว่า ใส่ขี้ผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะลงไปในน้ำมัน คนเพื่อให้ขี้ผึ้งละลายดี จึงยกลงจากเตา เทใส่ภาชนะอีกใบเพื่อให้สะดวก จากนั้นเตรียมส่วนผสมทั้งประเภทน้ำ และประเภทน้ำมันวางไว้ใกล้ๆกับเครื่องปั่นที่เตรียมไว้

วิธีการปั่น
ใส่ส่วนผสมที่เป็นประเภทน้ำลงไปก่อน-เปิดเครื่อง-ปั่น-ค่อยๆเติมส่วนผสมที่เป็นน้ำมันลงไปช้าๆ
ขณะกำลังปั่น
(ห้ามเทส่วนผสมประเภทน้ำลงบนส่วนผสมประเภทน้ำมันโดยเด็ดขาด)

ปิดเครื่อง เช็คดูว่าส่วนผสมเข้ากันดีหรือไม่ จากนั้นให้ทิ้งไว้สักครู่เพื่อให้ฟองยุบตัว แล้วเทใส่ภาชนะแก้วที่เตรียมไว้
ข้อควรคำนึง : ภาชนะต้องล้างให้สะอาด ลวกน้ำร้อนเสียก่อน

เป็นไงคะ คงทำได้ไม่ยากเลยใช่ไหมคะ

ขอขอบคุณ With many thanks to Dr. Elly Morr and others.

























Wednesday, March 24, 2010

การทำครีมถนอมผิว/ขี้ผึ้งถนอมผิว How to make salve

คราวที่แล้วเราได้น้ำมันมะพร้าวมาใช้แล้ว ผู้เขียนลองดื่ม 1 ช.ต. อืม...รสชาดนุ่ม หวานนิดๆมีกลิ่นมะพร้าวหน่อยๆ นุ่มเบาในปาก คิดว่าถ้าใครบังคับให้ดื่มน้ำมันพืชที่เราใช้ประจำในครัว คงทำไม่ได้แน่

เตรียมวัสดุอุปกรณ์เพื่อทดลอง
1. น้ำมันมะพร้าวขวดที่มีฝาสีชมพูคือที่เราทำได้ (ไม่มีสี)
ส่วนขวดน้ำมันมะพร้าวฝาสีเขียว ที่เห็นเป็นน้ำสีฟ้าอ่อนๆ นั่นคือแช่ดอกโมกมันไว้(ดอกสีขาวเล็กๆ) ภายในไม่กี่ชั่วโมง จะเห็นว่าน้ำมันมะพร้าวเปลี่ยนสีไปซะแล้ว เรานำมาใช้ทาผม หรือทำเครื่องสำอางได้เลย

2. กานพลูจำนวนตามชอบ หรือสมุนไพรใดๆก็ได้ ที่มีสรรพคุณทางยา ตามใจปรารถนา

ที่ใช้กานพลูเนื่องจากมีงานวิจัยบ่งบอกว่า กานพลูมีกลิ่นเพื่อการบำบัดได้ ทำให้ชาเฉพาะที่ได้ผู้เขียนจึงอยากทำน้ำมันสำหรับนวดแก้ปวดหัวเข่า เคยดูสารคดี เห็นฝรั่งนักสัตว์น้ำวิทยา ใช้น้ำมันกานพลูผสมน้ำเพื่อใช้แช่ปลาที่ต้องการติดชิปหรือเคลื่อนย้ายถิ่นที่อยู่ คือปลาจะสลบไปพักหนึ่ง

(บน) กานพลูแห้ง (ล่าง) น้ำมันมะพร้าวที่แช่ดอกโมกมันให้สีฟ้าอ่อน

จากนั้นใส่ทั้งสองอย่างลงในภาชนะ นำไปอุ่นบนหม้อน้ำเดือดโดยไม่ผ่านความร้อนจากเตาโดยตรง

ทิ้งไว้สักครู่ก่อนกรองด้วยผ้าขาวบาง

จะได้น้ำมันกานพลูสีสวยๆ

หากยังไม่ได้กลิ่นหอมของกานพลูนัก ก็อาจตำให้ละเอียดแล้วแช่น้ำมันทิ้งไว้สักครู่ ก่อนกรองด้วยผ้าขาวบางจากนั้นนำกลับไปเทใส่ภาชนะที่อุ่นบนน้ำเดือดอีกครั้ง ใส่ขี้ผึ้ง (beeswax) ลงไปประมาณ 1-1.5 ช.ต. คอยปรับเอาตามใจว่าต้องการแบบใด เหลวหรือแข็ง (ขี้ผึ้งทำให้แข็ง น้ำมันทำให้เหลว)

3. ใส่ขี้ผึ้ง (beeswax) คนเบาๆ ยกลงเทใส่ภาชนะแก้ว เก็บไว้ใช้ได้นานเป็นเดือน

สรุปว่าการทำก็ไม่ยาก จากการทดลองใช้ก็พอใจในระดับหนึ่ง
แต่ยังต้องมีการปรับปรุงสูตรอีกสักระยะหนึ่ง

แล้วพบกันใหม่นะคะ




























































การทำน้ำมันมะพร้าวบริสุทธิ์สกัดเย็น (cold-pressed coconut oil)

เผอิญว่าผู้เขียนมีเวลาศึกษาคลิปเกี่ยวกับการผลิตเครื่องสำอางใช้เอง ของชาวต่างชาติ (ตัวอย่างคลิปอยู่ทางด้านขวามือของบทความค่ะ) ส่วนผสมหลักส่วนหนึ่งคือน้ำมันมะพร้าว แต่เราจะหาซื้อที่ไหนได้ เพราะอยู่ในชนบท จึงสืบค้นหาวิธีที่จะผลิตไว้ใช้เอง (มั่นใจกว่าซื้อสินค้าคนอื่น) จึงเพิ่งถึงบางอ้อว่า...ยังมีคนไทยอีกหลายกลุ่มที่กำลังต่อสู้เพื่อให้ พืชสมุนไพรของไทยเรา เป็นที่ยอมรับสู่สากล รู้สึกศรัทธามาก

สามารถศึกษาสาระความรู้จากน้ำมันมะพร้าวได้ที่นี่ค่ะ :
http://www.212cafe.com/freewebboard/view.php?user=chaimongkol&id=34
และที่ http://www.coconut-virgin.com/home.html

ด้วยความที่อยากลองผลิตครีม หรือโลชั่น ไว้เพื่อเป็นยากลางบ้าน ใช้ทาแผลหรือรักษาเท้าแตก ที่ปรุงจากสมุนไพรในสวนหลังบ้าน จึงเริ่มการทดลองทำน้ำมันมะพร้าวดังนี้

1. คั้นน้ำกะทิด้วยน้ำอุ่น ใส่ภาชนะที่สะอาดที่สุด ตั้งทิ้งไว้ในห้องทำงาน เนื่องจากในห้องครัวจะมีเชื้อราปนเปื้อนมาก (จากที่อ่านมา) ในวันแรกก็สามารถมองเห็นว่าน้ำมันแยกเป็น 3 ชั้น รอจนครบวันที่สามหลังการหมัก ปกติผู้เขียนหมักน้ำกะทิในวันพุธ แล้วกรองในวันเสาร์เช้า เพื่อให้ทันกับการตั้งน้ำมันตากแดดในตอนเที่ยง ขั้นตอนต่อไปคือยกโหลน้ำหมักไปนอกบ้าน และใช้มุ้งคลุม เนื่องจากไม่ต้องการให้แมลงวันมารบกวนการทำงานของผู้เขียน


จะเห็นว่าน้ำกะทิแยกตัวเป็น 3 ชั้น ให้ช้อนชั้นบนสุดทิ้ง (บางคนเอาไปต้มทำสบู่)

ควรทำอย่างเบามือ ชั้นที่สองเราจะได้น้ำมันมะพร้าว ค่อยๆตักไปกรองในผ้าขาวบางเก็บไว้ใช้ บรรจุในภาชนะสะอาด ตั้งทิ้งไว้กลางแดดจัดประมาณ 3 ชั่วโมงเพื่อให้ใส จากนั้นนำไปใช้เพื่อการบริโภคได้ โดยการผสมกับเครื่องดื่มร้อน หรือดื่มเปล่าๆ 1 ช.ต. หรือนำไปทำกับข้าวใช้แทนน้ำมันพืชที่เคยใช้ ภายใน 2 เดือนแรกของการทดลอง ผู้เขียนสามารถลดน้ำหนักได้ครั้งแรก 3 ก.ก.ในรอบ 2 ปี และเมื่อตรวจร่างกายก็ไม่พบความผิดปกติใดๆเลย นับว่ามีโชคที่สุดแล้ว
สรรพคุณของน้ำมันมะพร้าว :

1.ใช้บริโภคแทนน้ำมันพืชในปัจจุบัน น้ำมันมะพร้าวไม่ทำให้อ้วน และช่วยลดความอ้วน
2.ใช้เพื่อการทำเครื่องสำอาง ทำยา
3.ดื่มทุกวันเพื่อปรับความสมดุลของร่างกาย

ศึกษาได้จากที่นี่ค่ะ
http://www.naturalmind.co.th/

เมื่อตักเอาส่วนที่เป็นน้ำมันมะพร้าวออกแล้ว น้ำส่วนล่างสุดเรียกว่าน้ำเปรี้ยว ให้เติมกากน้ำตาล 1 ช.ต. และหัวเชื้อจุลินทรีย์ 1 ช.ต. ก็ได้ E.M. ขยายไว้ใช้ โดยไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม
ในภาพ (ฝาสีเหลือง) และขวดคือน้ำหมักชีวภาพจากดอกไม้ กระปุกขวาสุดคือกากน้ำตาลสำหรับการทำ E.M.ขยาย
เมื่อผสมครีม(ชั้นบนสุด) กับน้ำเปรี้ยว(ชั้นล่างสุด) ก็ให้ใส่หัวเชื้อจุลินทรีย์ (E.M.) กากน้ำตาล 1-2 ช.ต. คนให้เข้ากัน
จากนั้นกรอกใส่ขวด เหลือเนื้อที่จากปากขวดประมาณ 4-5 นิ้ว เพื่อให้ก๊าซได้ระบาย ตั้งไว้ในที่ร่ม คลายเกลียวขวดทุกวัน ครบ 7-10 วัน นำออกมาใช้ได้

ผลผลิตจากการหมักน้ำกะทิ

1. ได้น้ำมันมะพร้าว
2. ได้น้ำหมักชีวภาพขยายเพื่อการทำความสะอาด ใส่ต้นไม้แทนปุ๋ย ปรับสภาพน้ำสู่ทางระบายน้ำชุมชนโดยเทไปตามท่อน้ำทิ้งภายในบ้าน

ขอให้สนุกนะคะ



















Tuesday, March 23, 2010

การทำน้ำยาอเนกประสงค์อัญชันชีวภาพ(สูตร2)

สูตรนี้เกิดขึ้นมาเนื่องจากน้ำยาอเนกประสงค์อัญชันชีวภาพกลายสภาพเป็นน้ำใสๆ ภายในเวลา 2 สัปดาห์ เนื่องจากกระบวนการทำ แก้ปัญหาโดยใช้กลีบดอกอัญชันตากแห้งต้มน้ำ 2 ช.ต. และได้เพิ่มน้ำผึ้ง 60 ซี.ซี. เพื่อลดการตึงผิว เนื่องจากผู้เขียนได้รับคอมเม้นต์จากท่านผู้รู้ท่านหนึ่ง จึงขอขอบพระคุณมา ณ โอกาสนี้

ส่วนผสมมีดังนี้
น้ำหมักชีวภาพอัญชัน 200 มล. หรือ 1 แก้ว
เกลือป่น 1 ก.ก. (12 บาท)

น้ำเปล่า 8 ขัน (1 ถัง)

N 70 (สารขจัดคราบ) 1 ถุง ราคา 80 บาท

กลีบดอกอัญชันตากแห้งประมาณ 50 กลีบ (10ดอก) ใส่น้ำเล็กน้อย
พอท่วมประมาณ 2 ช.ต. ต้มพอออกสีแล้วกรองไว้
น้ำผึ้ง 60 ซีซี.

ขั้นตอนการทำ : 1. เท N 70 ใส่ถัง ใช้ไม้พายกวนเบาๆ
ไปทางเดียวกันจนขึ้นขาว

2. เติมน้ำอัญชันที่ต้มได้ทีละนิดสลับกับการคนเบาๆไปทางเดียวกัน

3. จากนั้นเติมน้ำหมักชีวภาพอัญชันทีละนิดสลับกับการคนเบาๆ
ไปทางเดียวกันจนหมด
4. ใส่น้ำผึ้ง แล้วคนเบาๆ
5. เติมเกลือเติมน้ำทีละนิดพร้อมคนเบาๆสลับกันไป
เกลือ..ช่วยในการปรับความข้นความเหลว


ทิ้งไว้ 1 คืนเพื่อให้ฟองยุบตัว รุ่งเช้ากรอกใส่ขวด
จะได้น้ำยาอเนกประสงค์สีม่วงใส 1 แกลลอน
(12 ลิตร) และขวดพร้อมใช้อีก 3 ลิตร


สรุป : ลงทุนไม่เกิน 100 บาท ได้ทั้งน้ำยาซักผ้า
น้ำยาล้างจาน และสบู่เหลว